07 พฤศจิกายน 2556

เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2.2 ก่อนไปดูกันดั้ม เที่ยวอูเอโนะ (Ueno) และกินซ่า (Ginza)


หลังจากที่ไปอาซะสุกะมา ก็เลยไปที่ใกล้ๆ เนื่องจาก Chutpong Buathong ได้แนะนำให้ไปเดินตลากอาเมโยโกะ (Ameyoko -アメ横) โดยบอกว่าผมน่าจะชอบ ก็เลยนั่งรถใต้ดินไปสถานีอูเอโนะ (Ueno) เพราะเหลือเวลาอีกเยอะกว่าจะถึงนัดหมายไปเจอ @SUTYOD ที่สถานีไดบะ (Daiba) เพื่อไปดูกันดั้ม

ตลาดอาเมโยโกะ (Ameyoko -アメ横)

ตลาดอาเมโยโกะ เป็นชือเรียกย่อจากคำเต็มคืออาเมยะโยโกะโจ (Ameya-Yokochō - アメヤ横丁) ที่แปลว่าตรอกร้านขนมหวาน ดังนั้นป้ายที่เป็นทางการตามรถใต้ดินหรือที่อื่นๆ จึงต้องดูคำว่า Ameya-Yokochō

สถานีอูเอโนะมีสองสถานีคือ JR กับรถใต้ดินซึ่งใช้พื้นที่ร่วมกัน และ Keisei ซึ่งตลาดดูเหมือนว่าจะใกล้สถานีของ Keisei มากกว่า แต่ผมเดินทางด้วยรถใต้ดินจึงขอพูดถึงเส้นทางนี้ จากสถานีรถใต้ดินอูเอโนะทางออก 5b เมื่อขึ้นไปออกจากสถานีเดินไปจนเห็นทางรถไฟของ JR ที่ยกระดับอยู่เหนือหัว ตลาดจะอยู่ทั้งสองฝั่งของทางรถไฟ ด้านที่เจอก่อนจะเป็นร้านขายกระเป๋า และเสื้อผ้าเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีของกิน ซึ่งผมไม่สนใจนัก ลอดใต้ทางรถไฟแลัวมาเดินอีกด้านซึ่งน่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการหาของรับประทานเช่นผมกันดีกว่า
ป้ายทางออก 5b ไปตลาดอาเมโยโกะที่สถานีรถใต้ดิน
เดินไปจนเห็นทางรถไฟของ JR
ด้านที่ถึงก่อนส่วนใหญ่จะเป็นตลาดเสื้อผ้า
ลอดใต้สะพานรถไฟมาจะถึงด้านของกิน แต่ก็มีเสื้อผ้าและสินค้าอื่นปะปนอยู่บ้าง
ของสดแต่ละอย่างถูกได้ใจ
ปลาสดๆ ราคาที่ขายนั้นเป็นราคาต่อจานนะครับ
มีร้านอาหารและร้านขายสินค้าอื่นปนอยู่ประปราย
ร้านนี้ขายปลาชำแหละแล้วเป็นหลัก
แผงนี้ได้แต่กลืนน้ำลาย
ปลาแซลมอนแพ็คละ 1,500 เยน น่าซื้อกลับเมืองไทยมาก
เมล่อนชิ้้นละ 100 เยน อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา
อาหารสดและอาหารที่เตรียมไว้เพื่อนำไปประกอบอาหารอีกทีอยู่ในราคาที่ต้องบอกเลยว่าสุดถูก เช่นปลาแซลมอน 10 ชิ้นคะเนว่ากิโลกว่าๆ อยู่ในราคาแค่ 1,500 เยน ถ้าใครมาพักเป็นครอบครัวและมีครัวที่ทำอาหารได้ รับรองว่ามาตลาดอาเมะโยโกะแล้วไม่ผิดหวัง หรือหากจะซื้อขนมขบเคี้ยวที่เป็นถุงเช่นเซนเบะ ไม่ใช่กูลิโกะ คิทแคท หรือโตเกียวบานาน่า ที่นี่ก็เป็นแหล่งราคาถูกเช่นกัน ผมยังคิดว่ามาคราวหน้ากลับทางนาริตะ จะลองเอาแซลม่อนย่างเกลือกลับไปเมืองไทยสักสิบชิ้น (คุ้มหรือเปล่านะ 555)

สวนสาธารณะอูเอโนะ (Ueno Park)

หลังจากชมและชิมที่อาเมโยโกะจนหนำใจ ก็ถึงเวลาพักผ่อนชมธรรมชาติ เราก็เดินไปทางสถานีรถไฟ Keisei Ueno ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่กว้าง แต่เล็กกว่าสวนจตุจักร เดินมาไม่นานก็ถึงทางเข้า อยู่ทางทิศใต้ของสาถานีรถไฟ Keisei Ueno นังพักให้หายเหนื่อยจากการเดินชมและชิมสักครู่ แล้วจึงเดินดูภายในสวนสาธารณะซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย
หน้าทางเข้าสวนสาธารณะอูเอโนะ
พุ่มไม้เริ่มเปลี่ยนสี
แผนผังภายในสวนสาธารณะอูเอโนะ
การแสดงจากศิลปินเล่าเรื่องด้วยการเป่าลูกโป่งแบบสดๆ และรับบริจาคด้วย
กลุ่มรำพื้นบ้านญี่ปุ่น ดูเหมือนเสื้อเหลืองวงในเป็นกลุ่มนำ รอบนอกเป็นคนทั่วไปที่มาร่วมวง
National Museum of Western Art

เดินเล่นกินซ่า (Ginza)

ไม่ใช่ว่าอิ่มแล้วไปเดินซ่าแถวไหนหรอกครับแหม่ แค่อยากจะหาดูว่า iRig Blueboard ซึ่งเป็นอุปกรณ์ควบคุม MIDI Switch บน iOS ผ่าน Bluetooth ได้ 4 ช่องพร้อมกัน ทำให้สามารถควบคุม Guitar Effect ของ Amplitube ด้วยเท้าได้เหมือนแผงเอฟเฟกต์แบบดั้งเดิม มันมาถึงญี่ปุ่นหรือยังก็เลยถาม @PearlyBear ว่า Apple Store แถวไหนใหญ่สุด น้องก็เลยพามากินซ่า
@PearlyBear บอกว่านี่เป็น Landmark ของกินซ่า ซึ่งผมถามว่ามันมีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอก ก็ไม่มีคำตอบ
เสาร์อาทิตย์ปิดเป็นถนนคนเดิน 
ป้อมตำรวจที่กินซ่า ดูเก๋ดี
มีจัด Fashion Week ในห้างอีกฝั่ง
ร้านนี้อยู่ในโพยที่ Thininut Srichan ให้มาด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่หิวเลยไม่ได้แวะชิม
ที่นี่มีร้าน Uniqlo ที่ใหญ่มากถึง 12 ชั้น ก็เลยไปแวะเดินเพื่อหาเสื้อยืดลายกันดั้มคอลเล็คชั่นเก่าเผื่อว่ามี แต่ไม่ได้ ได้แต่เสื้อยืดลาย Fender Stratocaster กีต้าร์ในฝันของผมมาแทน ฝนเริ่มตกปรอยๆแล้ว
หน้าร้าน Uniqlo ที่กินซ่า
จากนั้นจึงย้ายไปจุดหมายที่ตั้งใจมาหาคือ Apple Store ก็ไปแอ๊คท่าถ่ายรูปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ขึ้นไปชั้นสองซึ่งขาย Accessory เพื่อหา iRig Blueboard ซึ่งไม่มีของ มีเรื่องที่นึกขำตัวเองไม่หายคือพนักงานไม่รู้จัก iRig Blueboard (ก็น่าอยู่หรอกของเริ่มขายวันที่ 15 ตุลาคม มาถามหาวันที่ 19 ตุลาคม) ก็เลยเปิดจากเว็บให้ดูจาก Samsung Galaxy Note II โดยลืมไปว่าอยู่ใน Apple Store พนักงานก็ทำหน้างงๆ ที่จริงตอนนั้นมี iPad รุ่นแรกอยู่ในเป้นะนี่
ป้าย Apple เห็นแต่ไกล
หน้า Apple Store ที่กินซ่า
จากนั้น @PearlyBear เลยพาเดินไปชมโรงละครคาบูกิที่อยู่แถวนั้น ซึ่งขณะที่ไปคนต่อแถวรอเข้าขมอยู่ยาวพอสมควร แต่แค่แวะมาดูว่าหน้าตาเป็นอย่างไรเท่านั้น เพราะเป้าหมายของวันนี้อยู่ที่ Diver City โอไดบะ
โรงละครคาบูกิที่อยู่แถวกินซ่า

เติมพลังก่อนไปโอไดบะ

หลังจากเดินแถวกินซ่าก็ใกล้เวลาที่นัดหมาย @SUTYOD ไว้ จึงเดินทางจากกินซ่าไปสถานีชิมบาชิ (Shimbashi) ด้วยรถไฟใต้ดินสายกินซ่าประมาณสองนาที เมื่อถึงแล้วก็เริ่มหิวก็เลยหาอะไรกินง่ายๆ ก็ราเมงล่ะครับเป็นมื้อที่สอง ร้านชื่ออะไร @PearlyBear ก็อ่านไม่ออกเพราะเขียนเป็นคันจิ เอาเป็นว่าดูรุปก็แล้วกัน ราเมงแถวนี้ชามใหญ่เอาเรื่องเลยล่ะ กินเสร็จก็เดินไปสถานีรถโมโนเรลสาย Yurikamome เพื่อไปโอไดบะเพื่อคารวะเจ้าพ่อกันดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น