31 ตุลาคม 2556

เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 0 วางแผน

นี่เเป็นบันทึกการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกของผมที่น่าจดจำ ได้ประสพการณ์ใหม่ๆ ได้ไปเห็นในสิ่งทั้งที่ตั้งใจไว้และไม่ได้ตั้งใจ และมีความรู้สึกว่าอยากเที่ยวต่อไม่อยากกลับ

การเดินทางครั้งนี้สนุกตั้งแต่วางแผนการเดินทาง ตั้งแต่การนัดวันว่างเพื่อนทางทวิตเตอร์เพื่อไปเที่ยวด้วยกัน นัดเพื่อนที่เกาหลี วางแผนเส้นทางการท่องเที่ยว การวางแผนแลกไมล์สายการบินยูไนเต็ดที่มีอยู่เพื่อจะไปทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีให้ได้ตามเวลานัด การจองห้องพักเพื่อลองที่พักแบบแปลกๆ การวางแผนการเดินทางโดยพาหนะต่างๆ การหา SIM โทรศัพท์เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต และอื่นๆอีกมากมาย

นัดหมาย @PearlyBear

ได้รู้จักน้องมุกผ่านทางทวิตเตอร์มาสักสองปีแต่ไม่เคยเจอตัว น้องเรียนอยู่ที่โตเกียวทางด้าน Information Security (ทราบภายหลังว่าเรียนอยู่โทได โอ้อะไรจะเก่งปานนั้น) มา Follow ผมเนื่องจากผมทำงานทางด้านนี้มานาน เมื่อจะไปญี่ปุ่นจึงถามว่าในช่วงที่ลาพักผ่อนไปนั้นว่างช่วงไหน เพราะญี่ปุ่นยังมีเรียนในช่วงนี้ เมื่อได้รับคำตอบว่าว่างวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม จึงวางแผนคร่าวๆ ว่าไปถึงโตเกียวสักวันที่ 18 ตุลาคม และออกจากญี่ปุ่นเพื่อไปโซลสักวันที่ 25 ตุลาคม เนื่องจากเพื่อนที่เกาหลีซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่แทกู (Daegu) สามารถมาพบที่โซลได้วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม และอาจจะกลับกรุงเทพในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม

เส้นทางการท่องเที่ยว

แต่แรกคิดว่าจะเดินทางขึ้นเหนือไปออกที่ซัปโปโร แต่ได้รับคำแนะนำจากหลายคนว่าซัปโปโรไปช่วงฤดูหนาวจะดีกว่าและเที่ยวทั้งฮอกไกโดไปเลย จึงเปลี่ยนแผนลงใต้เที่ยวเฉพาะเกาะฮอนชู และไปโซลโดยออกจากสนามบินคันไซ (โอซากา)

เป้าหมายหลักครั้งนี้คือไปดู Gundam RX78-2 ขนาด 1:1 ที่ Diver City โอไดบะ ไปหาฟูจิซังที่สถานีที่ 5 (Mount Fuji 5th Station) ล่องทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) ตามรอยอิคคิวซังที่วัดคิงคาคูจิ (Kinkaku-ji) และลิ้มลองเนื้อโกเบ แผนการคร่าวๆ คือ
  • 18/10 ถึงโตเกียวเข้าที่พัก เที่ยวแถวนั้น
  • 19/10 เที่ยวชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบูย่า แล้วไปโอไดบะตอนเย็๋น
  • 20/10 เที่ยวนิกโก ไปเช้า เย็นกลับมาโตเกียว
  • 21/10 ไปหาฟูจิซัง พักที่คาวากูจิโกะ
  • 22/10 เที่ยวแถวทะเลสาบคาวากูจิโกะ
  • 23/10 เที่ยวเกียวโต
  • 24/10 เที่ยวโกเบ หาเนื้อโกเบรับประทาน
  • 25/10 เที่ยวโอซากา เย็นไปโซล
แต่เมื่อดูรายละเอียดของนิกโกแล้วพบว่า ไปค้างคืนจะดีกว่าจึงเปลี่ยนแผนเป็นเที่ยวโตเกียวในวันที่ 20 แทน

แลกไมล์จองตั๋วเครื่องบิน

เนื่องจากไมล์ที่ผมบินสะสมไว้กับสายการบินยูไนเต็ดนั้นเหลืออยู่ประมาณ 70,000 ไมล์จึงทำการหาตั๋วที่ว่างในช่วงนั้นตามวันที่กำหนดไว้ ไมล์ของยูไนเต็ดสามารถแลกบินกันสายการบินพันธมิตร Star Alliance ได้ทุกสายการบินที่มีที่ว่างสำหรับการแลกไมล์ในแต่ละเส้นทาง โดยสามารถค้นหาเที่ยวบินเพื่อแลกไมล์ได้ผ่านทาง www.united.com ซึ่งสะดวกมาก สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามจากกรุงเทพฯไปโตเกียวไม่ได้บินตรงแต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ผู่ตง (PVG-Pudong) เซี่ยงไฮ้ ซึ่งก็มีความขลุกขลักเล็กน้อย จะเล่าให้ฟังในตอนที่ 1.1 จากสุวรรณภูมิถึงนาริตะ (BKK-NRT)

แม้จะแลกไมล์แต่ก็ต้องเสียภาษีสนามบินบวก Surcharge 92.90 USD และค่าธรรมเนียมแลกไมล์อีก 75 USD โดยตัดผ่านบัตรเครดิตทั้งหมด

จองห้องพัก

ในช่วงที่จองห้องพัก Agoda มีโปรโมชันร่วมกับบัตรเครดิตสองสามแห่งที่ลดเพิ่มอีก 7% จึงได้จองกับ Agoda เป็นหลัก อย่างไรก็ตามก็ให้ Trip Advisor เปรียบเทียบราคากับเว็บอื่นๆ ให้ด้วย โดยมีเงื่อนไขดังนี้
  • ราคาต่อคืนให้อยู่ราวๆ 1,000 บาท ยกเว้นที่คาวากูจิโกะขอราคาสูงได้ไม่เกิน 3,000 บาท แต่ขอมีออนเซ็นด้วย
  • สถานที่ที่โตเกียวต้องอยู่ย่านชินจูกุ ฮาราจูกุหรือชิบูย่า ใกล้กับที่พักของน้องมุกเพื่อสะดวกในการนัดพบ ทั้งที่โตเกียวและโอซากาต้องไม่ห่างสถานีรถไฟหรือรถใต้ดิน ส่วนที่คาวากูจิโกะขอให้มีรถถึงก็พอ
ใช้เวลาพิจารณาอยู่นานเรื่องที่พัก เปรียบเทียบคะแนนรีวิวด้วย โดยเลือกจากโอซากาย้อนกลับมาโตเกียวเพราะมีตัวเลือกเยอะมากและได้ที่พักดังนี้

  • 18-20 พักที่ Shinjuku Kuyakushomae Capsule Hotel ใกล้สถานีชินจูกุ และ ชินจูกุซานโจเมะ (Shinjuku 3-Chome) จองกับ Expedia เป็นโรงแรมแคปซูลซึ่งจะเล่าให้ฟังในตอน 1.2 จากนาริตะถึงชินจูกุ
  • 21 พักที่ Guesthouse Sakuya จองกับ Agoda
  • 22 ไม่ได้จองเพราะกะว่าจะค้างคืนบนรถบัสจากคาวากูจิโกะไปเกียวโต
  • 23-24 พักที่ First Cabin Midosuji-Namba ติดกับสถานีรถใต้ดินนัมบะ จองกับ Agoda คล้ายโรงแรมแคปซูลแต่ใหญ่และสะดวกกว่า

วางแผนการเดินทางไปยังจุดต่างๆ

เนื่องจากต้องไปหลายที่จึงต้องวางแผนเรื่องพาหนะมากสักหน่อย โดยทั่วไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายวันคนมักจะแนะนำให้ใช้ JR Pass แต่ผมพบว่า Pass ต่างๆ ของ JR จะไม่คุ้มถ้าไม่ได้เดินทางไปไกลๆ ประเด็นหลักคือการตัดสินใจไปคาวากูจิโกะจากชินจูกุ และต่อไปยังเกียวโตถ้าพึ่งรถไฟ JR จะอ้อมมากและหลายต่อเกินไป จึงตัดสินใจไม่ซื้อ JR Pass ตัวเลือก JR Kanto Pass 3 วัน 8,000 เยนก็ไม่คุ้มเมื่อตัดสินใจไม่ไปนิกโก เลยวางแผนการเดินทางดังนี้
  • 18-20 ใช้ Keisei Skyliner เที่ยวเดียว + Metro Pass 2 วัน 2,980 เยน Skyline ใช้นั่งจากนาริตะมานิปโปริในวันที่ 18 แล้วต่อ JR มาชินจูกุอีก 190 เยน ส่วน Metro Pass ใช้วันที่ 19-20 ซึ่งจำกัดสายอยู่บริเวณโตเกียวชั้นใน ซึ่งเพียงพอต่อการเที่ยวโตเกียวครั้งนี้ ถูกกว่าซื้อแยก Skyliner 2400 เยน + Metro Pass วันละ 700 เยน (http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/special/)
  • 19 ตั๋วไปกลับของ Monorail สาย Yurikamome ระหว่างสถานี Shimbashi กับสถานี Daiba เพื่อไปดู Gundam ที่ Diver City 2x310 เยน ซึ่ง Metro Pass ไม่ครอบคลุม
  • 21 รถบัสจากสถานี Shinjuku Express Bus ไปสถานีคาวากูจิโกะ 1,700 เยน
  • 21-22 ที่สถานีคาวากูจิโกะซื้อ Fujisan Fujigoko Passport 3 วัน ใช้นั่งรถบัสไปสถานีที่ 5 ภูเขาฟูจิ ไปกลับ 1 รอบ และรถ Retro Bus แถวทะเลสาบคาวากูจิโกะและไซโกได้ 3 วัน ราคา 3,800 เยน ถูกกว่าซื้อแยก (รถบัสไปสถานีที่ 5 ภูเขาฟูจิ ไปกลับ 2,000 เยน Passport 2 วัน 2,500 เยน)
  • 22 รถบัสจากสถานีคาวากูจิโกะไปเกียวโต 8,000 เยน ค้างคืนบนรถ
  • 23-24 ที่สถานีเกียวโตซื้อ Kansai Thru Pass 2 วัน 3,800 เยนใช้นั่งรถไฟ รถใต้ดิน รถประจำทาง ในเขตคันไซ ซึ่งรวมเกียวโต โอซาก้า โกเบ และนารา เกือบทุกสายยกเว้น JR ที่ไม่ซื้อ 3 วัน 5,000 เยน เพราะวันที่ 25 ไปสนามบินคันไซอย่างเดียวแค่ 890 เยน (http://www.surutto.com/tickets/kansai_thru_english.html)
  • 25 สถานีนัมบะนันไกถึงสนามบินคันไซ (KIX) 890 เยน

Internet Data SIM

ชีวิตที่ขาดอินเทอร์เน็ตและ Social Network ก็ไม่สะดวกนักสำหรับผม จากการเสาะหาก็พบ SIM ของ b-mobile ซึ่งใช้เครือข่ายของ DoCoMo รองรับ 3G ที่ความถี่ 2.1 GHz ได้ 1GB 14 วันราคา 3,980 เยน (http://www.bmobile.ne.jp/english/product.html) สั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต มีบริการส่งให้ที่พักในเมืองใหญ่ฟรีแต่ต้องนัดช่วงเวลา แต่ถ้าไปรับที่ไปรษณีย์ที่สนามบินจะต้องเพิ่มเงินอีก 210 เยน ซึ่งผมเลือกไปรับที่ไปรษณีย์สนามบินนาริตะเทอร์มินัล 1 เนื่องจากผมไม่แน่ใจว่าจะไปถึงโรงแรมเวลาไหนและต้องการ Google Map + GPS หาทางจากสถานีชินจูกุไปยังโรงแรม

น้องมุกยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบริการ Pocket WiFi เช่าไปจากเมืองไทยได้เลยวันละ 200 บาทที่ https://www.facebook.com/iwifiFan ซึ่งถ้าไปไม่กี่วันน่าจะคุ้มกว่า

เดินทางเยอะกระเป๋าต้องเล็ก

เมื่อเลือกพัก Capsule Hotel และต้องฝากกระเป๋าที่สถานีคาวากูจิโกะสองวัน (ก่อนเข้าที่พักและหลังจากออกจากที่พัก) ที่เกียวโต 1 วัน ขนาดกระเป๋าเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง แต่ว่าขนาดเท่าไรเรามาดูกัน

ที่ญี่ปุ่นจากการค้นคว้าข้อมูลเรื่องขนาด Locker แบบหยอดเหรียญตามสถานีรถไฟแต่ละที่มีขนาดมาตรฐานสามารถดูได้จาก https://www.jreast.co.jp/e//stations/pdf/info_coinlocker.pdf ซึ่งขนาดมาตรฐานเล็กสุด 300 เยน คือ H400 x W340 x D570 mm3 เป็นขนาดที่ผมจะเอากระเป๋าไปตามรูป
กระเป๋าที่เอาไป เป้จะติดตัวตลอดไม่ฝาก
ล็อกเกอร์ขนาดมาตรฐาน 300 เยน ภาพถ่ายที่สถานีรถไฟ Karasuma เกียวโต
ล็อกเกอร์เปล่าก่อนใส่กระเป๋าที่เอาไป
ล็อกเกอร์เมื่อใส่กระเป๋าแล้วดันจนสุด
เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอาไปจนครบวัน เผื่อไว้แค่ 5 วันเท่านั้นซึ่งต้องซักระหว่างทาง จะเล่าให้ฟังถึงการใช้เครื่องซักผ้าและอบผ้าแบบหยอดเหรียญในตอนต่อๆ ไป

อย่างไรก็ตามมีใบสั่งซื้อของ :P ซึ่งไม่สามารถใส่กระเป๋าใบนี้กลับมาได้ แผนการก็คือซื้อกระเป๋าใบใหม่ที่โอซาก้าแล้วใส่ของฝากขนกลับมา แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนนัก ไว้จะเล่าให้ฟังต่อไป

วางแผนการใช้รถไฟ-รถใต้ดินด้วย Hyperdia

เสี่ยเติ้งแห่งร้านเรียนดี นครสวรรค์ (Atid Wangsuekul) แนะนำให้ลงโปรแกรม Hyperdia บน Android แต่ที่จริงใช้บน Web ก็มีที่ http://www.hyperdia.com/ ใช้ในการหาเส้นทางต่อรถไฟและรถใต้ดินที่ถูกต้อง เวลาแม่นยำ เชื่อถือได้ทั่วญี่ปุ่น มีติดตัวไว้ได้ใช้แน่ พร้อมบอกราคาเสร็จสรรพ จะเอาเร็วหรือเอาราคาเป็นที่ตั้ง เลือกเอาได้ แต่การป้อนชื่อสถานีต้องตรงเช่น สถานีนัมบะ

  • JR ต้องป้อน JR-NAMBA
  • รถใต้ดินต้องป้อน NAMBA (SUBWAY)
  • สายนันไกต้องป้อน NAMBA (NANKAI)
  • สาย Hanshin ต้องป้อน OSAKA-NAMBA

Hyperdia บน Android
อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลมาก หากป้อนผิดสถานีโปรแกรมจะบอกให้เราเดินไปสถานีที่ถูก หรือหาเส้นทางอื่นให้

จบตอนที่ 0

ตอนที่เกี่ยวข้อง
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 1.1 จากสุวรรณภูมิถึงนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 1.2 จากนาริตะถึงชินจูกุ
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2.1 Tokyo Metro Pass และ อาซะกุสะ
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2.2 ก่อนไปดูกันดั้ม เที่ยวอูเอโนะ (Ueno) และกินซ่า (Ginza)
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2.3 Gundam ที่โอไดบะ (Odaiba)
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 3 ซูชิทำให้วันนี้ไม่หดหู่
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 4.1 จากชินจูกุถึงฟูจิซัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น