10 กันยายน 2557

เที่ยวญี่ปุ่น: เที่ยวคันไซโดยใช้ Pass

หลังจากที่กลับจากเที่ยวญี่ปุ่นรอบที่สาม ก็ได้ให้คำปรึกษากับหลายคนเกี่ยวกับการใช้ตั๋วท่องเที่ยว (Pass) ในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่น จึงเห็ว่าน่าจะรวบรวมไว้ตรงนี้เผื่อจะมีใครใช้ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามดูแต่ละช่วงว่าตั๋วท่องเที่ยวนั้นๆ ได้หมดวาระการขายหรือยัง ซึ่งโดยทั่วไปจะประกาศเป็นรอบปีไป อาจจะยกเลิกหรือปรับราคาก็ว่ากันไป ตั๋วท่องเที่ยวที่ผมจะแนะนำมีดังนี้

Kansai Thru Pass




เป็นตั๋วเดินทางที่หากวางแผนดีๆ จะคุ้มมาก เพราะครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของเขตคันไซ ประกอบด้วย เฮียวโงะ (โกเบ ฮิเมจิ อยู่ในจังหวัดนี้) เกียวโต โอซากา ชิงะ นารา วากายามา และมิเอะ ใช้ได้ทั้งรถไฟเกือบทุกสายยกเว้น Japan Rail รถใต้ดิน รถประจำทางเกือบทุกสาย มีแบบสองวันและสามวัน ราคา 4,000 และ 5,200 เยนตามลำดับ ขึ้นมาจากปี 2013 อยู่ 200 เยน นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนลดเข้าชมสถานที่ต่างๆ ร้านอาหาร โรงแรม ได้อีกร้อยกว่าแห่ง รายละเอียดดูได้ที่นี่ ตั๋วนี้เมื่อเริ่มใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ในวันต่อไปทันทีก็ได้ เว้นไปหลายวันแล้วค่อยใช้ก็ได้

ประสบการณ์ส่วนตัว

ซื้อครั้งแรกที่สถานีเกียวโตตรง Information Center หลังออกจาก Exit 6 ของรถใต้ดิน เดือนตุลาคม 2013 แบบสองวัน 3,800 เยน ที่เกียวโตใช้ขึ้นรถใต้ดิน รถไฟสาย Hunkyu รถไฟสาย Keifuku รถเมล์สองสาย เที่ยวอาราชิยามา คินคาคูจิ ตลาดนิชิ แล้วมาโอซากาด้วยสาย Hunkyu ถึงอูเมดะต่อรถใต้ดินไปนอนที่นัมบะ เช้าอีกวันนั่งสาย Hanshin ไปโกเบ ต่อรถใต้ดินในโกเบไปนากาตะดูหุ่นเหล็กหมายเลข 28 แล้วกลับมานัมบะ เที่ยวต่อโดยใช้รถใต้ดิน

ครั้งที่สองที่ Information Center ของรถไฟสาย Hunkyu ที่สถานีอูเมดะเดือนสิงหาคม 2014 แบบ 3 วัน 5,200 เยน พักโอซากาแต่ใช้เที่ยวโกเบ โดยใช้รถใต้ดินไปอูเมดะ (240 เยน) ต่อไปสถานีซานโนมิยะโดยสาย Hunkyu (320 เยน) ใช้ Port Liner ไปเที่ยว Kobe Animal Kingdom (280 เยน) กลับมาซานโนมิยะ (280 เยน) ไป Shinkaichi โดยสาย Hanshin (130 เยน) กลับมาโอซาก้าสถานีอูเมดะโดยสาย Hankyu (450 เยน) ใช้รถใต้ดินกลับที่พักที่ Dobutsuen-mae (240 เยน) ถ้าจ่ายจริงคือ 1,940 เยน

วันรุ่งขึ้นใช้นั่งรถใต้ดินไปต่อสาย Nankai ที่ Tengachaya (180 เยน) เพื่อไปสถานี Izumisano (550 เยน) ต่อรถประจำทางสาย Nankai 2 ไปภูเขาอินานูกิ (470 เยน) แล้วกลับมา (470 เยน) ต่อไป Rinku Town (270 เยน) กลับที่พักไปเปลี่ยนเสื้อ (1,400 เยน) ออกไปสถานี Kaizuka เพื่อไปชม Bon Odori (1,180 เยน) แล้วกลับที่พัก (1,180 เยน) ถ้าจ่ายจริงคือ 5,700 เยน

เว้นไปหนึ่งวัน ไปใช้ชอปปิ้งที่ Tenjinbashi-Suji (240 เยน) กลับเอาของมาเก็บที่ที่พัก (240 เยน) ออกไปขึ้นรถใต้ดินต่อโมโนเรลไป Expo Park (650 เยน) จากนั้นนั่งโมโนเรลต่อสาย Hankyu ไป Ikeda เพื่อไปดูพลุ (520 เยน) แล้วกลับมาที่พัก (520 เยน) ถ้าจ่ายจริงคือ 2,170 เยน

สามวันถ้าจ่ายจริงคือ 9810 เยน นี่ยังไม่รวมส่วนลดเข้า Kobe Animal Kingdom นะครับ คุ้มจริงๆ

ซื้อได้ที่

  • Kansai International Airport Travel Desk (ออกมาจากรับกระเป๋าอยู่ขวามือ)
  • Osaka Visitors' Information Center – Namba (ใกล้ทางขึ้นลงสถานี Namba Nankai)
  • Osaka Visitors' Information Center – Umeda (ใกล้สถานี JR Osaka)
  • Kyoto Station Bus Information (Exit 6 สถานีรถใต้ดิน Kyoto)
  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • ห้องตั๋วสถานี Nankai Kansai Airport
  • บนรถประจำทางสาย Nankai

Hankyu Arima-Rokko Pass


ใช้สำหรับเที่ยว Arima-Onsen และภูเขา Rokko มี 1 วัน กับสองวัน ราคา 2,560 และ 3,160 เยนตามลำดับ ใช้รถไฟสาย Hankyu ได้ทั้งสายจะมาจากเกียวโตก็ได้ ส่วนด้านโกเบสุดแค่ Sannomiya เท่านั้น นอกจากนั้นสามารถใช้รถประจำทางระหว่างสถานี Hankyu Rokko กับ Rokko Cable Car สาย 16 กับ 26 (200 เยน) ขึ้น Rokko Cable Car (570 เยน) รถประจำทางบน Rokko (190-250 เยนขึ้นอยู่กับจุดขึ้นลง) ขึ้น Ropeway ระหว่าง Arima Onsen กับ Rokko (980 เยน) รถใต้ดิน/รถไฟ ระหว่างสถานี Sannomiya กับ Arima Onsen (930 เยน) ทั้งหมดนั้นกี่เที่ยวก็ได้ แถมเข้า Kinnoyu Onsen ได้ฟรี 1ครั้ง

ประสบการณ์ส่วนตัว

ซื้อแบบสองวัน วันแรกจากอูเมดะใช้สาย Hunkyu ไป Ikeda (270 เยน)เพื่อไปพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำสำเร็จรูป จากนั้นต่อไป Takarazuka (190 เยน) เพื่อไปพิพิธภัณฑ์ Tezuka Osamu Manga (คนเขียนเจ้าหนูอะตอม แบล็คแจ็ค เจ้าหนูสามตา) จากนั้นไปสถานี Rokko (280 เยน) ขึ้นรถประจำทางไปสถานี Cable Car (200 เยน) นั่ง Cable Car ขึ้นเขา (ไป-กลับ 1,000 เยน) นั่งรถเมล์ไปจุดชมวิว (250 เยน) แล้วกลับไปสถานี Cable Car (250 เยน) นั่งลงไปต่อรถประจำทางไปสถานี Rokko (200 เยน) ต่อสาย Hunkyu กลับอูเมดะ (320 เยน) ถ้าจ่ายจริงคือ 2,960 เยน

วันรุ่งขึ้นใช้นั่งจากอูเมดะไป Arima Onsen (1,250 เยน) นั่ง Ropeway ขึ้น Rokko (980 เยน) นั่งรถประจำทางจาก Botanical Garden ไปจุดชมวิว (190 เยน) จากนั้นนั่งไปสถานี Cable Car (250 เยน) นั่ง Cable Car ลงเขา (570 เยน) ไปต่อรถประจำทางไปสถานี Rokko (200 เยน) ต่อสาย Hunkyu กลับอูเมดะ (320 เยน) ถ้าจ่ายจริงคือ 3,760 เยน

สองวันถ้าจ่ายจริงคือ 6,270 เยน นี่ก็คุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้มคุ้มทุกสิ่ง....

ซื้อได้ที่

  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • ห้องตั๋วสถานีรถไฟสาย Hankyu

Rokko Leisure Ticket

ถ้าไม่ไป Arima Onsen แล้วเที่ยว Rokko วันเดียวเหมือนที่ผมใช้ Hankyu Arima-Rokko Pass วันแรก ตั๋วนี้จะคุ้มกว่าทันที เพราะราคาแค่ 1,700 เยนเท่านั้น ราคานี้รวมรถไฟสาย Hankyu ได้ทั้งสายแบบเดียวกัน ใช้รถประจำทางระหว่างสถานี Hankyu Rokko กับ Rokko Cable Car สาย 16 กับ 26 ไปกลับ (รวม 400 เยน) ขึ้น Rokko Cable Car ไปกลับ 1 เที่ยว (1,000 เยน) รถประจำทางบน Rokko (190-250 เยนขึ้นอยู่กับจุดขึ้นลง) แถมยังใช้ Rokko Maya Sky Shuttle Bus ได้ด้วย (160-470 เยน) เช่นไปฟาร์มแกะที่ภูเขา Maya  (290 เยน) แต่ลงไป Arima Onsen ไม่ได้นะครับ โดยส่วนตั๋วนี้ไม่เคยใช้ แต่เจอน้องคนไทยที่เรียนที่นี่ใช้ รายละเอียดดูได้ที่นี่ เป็นภาษาญี่ปุ่น ใช้ Google Translate เอาเหมือนกัน

ซื้อได้ที่

  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • ห้องตั๋วสถานีรถไฟ Rokko สาย Hankyu

Osaka Amazing Pass


ตั๋วนี้สำหรับเที่ยวโอซากาแบบตะลุยดะ เพราะนอกจากจะใช้นั่งรถใต้ดิน รถราง รถไฟ (ยกเว้น JR อีกเช่นเคย) รวมทั้งรถประจำทางในตัวเมืองโอซาก้าแล้ว ยังรวมค่าบัตรเข้าชม/ใช้ อีก 28 แห่งฟรี และส่วนลดอีกร้อยกว่าแห่ง มีแบบหนึ่งวันราคา 2,300 เยน และแบบสองวันแต่ไม่รวมรถไฟราคา 3,000 เยน รายละเอียดดูเอาที่นี่

ประสบการณ์ส่วนตัว

ซื้อแบบหนึ่งวัน แล้วใช้เข้าปราสาทโอซาก้า (600 เยน) Naniwa no Yu Onsen (800 เยน) HEP FIVE Ferris Wheel (500 เยน) นั่งเรือชมแม่น้ำ Tombori (700 เยน) เรือ Santa Maria ชมอ่าวโอซากา (1,600 เยน) Tempozan Giant Ferris Wheel (800 เยน) Suminoe Onsen (600 เยนวันธรรมดา) Tsutenkaku Tower (700 เยน) ไม่คิดค่ารถใต้ดินและรถเมล์ก็แล้วกัน ถ้าจ่ายจริงคือ 6,300 เยน คุ้มไหม?

ซื้อได้ที่

  • Kansai International Airport Travel Desk (ออกมาจากรับกระเป๋าอยู่ขวามือ)
  • Osaka Visitors' Information Center – Namba (ใกล้ทางขึ้นลงสถานี Namba Nankai)
  • Osaka Visitors' Information Center – Umeda (ใกล้สถานี JR Osaka)
  • โรงแรมใหญ่บางแห่ง
ส่วนด้านล่างนี้มีเฉพาะ 1 day pass
  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • ห้องตั๋วสถานี Nankai Namba, Shin-Imamiya, Sumiyoshitaisha, Sakai, Shiomibashi, Sumiyoshihigashi, Sakaihigashi
  • ห้องตั๋วสถานี Hanshin Namba, Umeda, Amasaki
  • สถานีรถใต้ดินเกือบทุกสถานี

Osaka Subway/Bus Pass


ใช้นั่งรถใต้ดิน รถราง รถประจำทาง ในโอซาก้าได้ วันธรรมดา 800 เยน วันหยุด 600 เยน คิดง่ายๆ ถ้าวันธรรมดาขึ้นเกินสามสถานี 4 ครั้ง จึงจะคุ้ม วันหยุดขึ้นเกิน 3 สถานี 3 ครั้งก็คุ้มแล้ว

ประสบการณ์ส่วนตัว

ซื้อวันหยุดครั้งหนึ่ง ใช้คุ้มมากทั้งรถใต้ดิน รถประจำทาง ใช้รถประจำทาง ถาม Google Map เอาได้เลยว่าสายไหนไปไหน ขึ้นตรงไหน ลงตรงไหน

ซื้อได้ที่

ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติสถานีรถใต้ดินทุกสถานี

Hankyu Tourist Pass

ดูเหมือนผมจะถูกชะตากับรถไฟสาย Hankyu เป็นพิเศษ เพราะชอบไปโกเบ เกียวโต Arashiyama ที่จริงมีรถไฟเจ้าอื่นด้วยแต่ Hankyu ดูจะสะดวกสุด เส้นทางจะเป็นตามรูป
จุดที่น่าเที่ยวบนเส้นนี้ได้แก่
  • Sannomiya หรือโกเบ สถานี Hankyu Kobe-Sannomiya ใกล้ Steak Land ร้านสเต็กขึ้นชื่อมากกว่าสถานีอื่น
  • Rokko ไปต่อ Cable Car ขึ้นเขา Rokko
  • Takarazuka มีบ่อน้ำร้อน โรงละครหญิงล้วน พิพิธภัณฑ์ Tezuka Osamu Manga 
  • Ikeda พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำสำเร็จรูป
  • Mino อุทยานแห่งชาติ ยังไม่เคยไป แต่อยู่ในแผน
  • Umeda ศูนย์กลางของโอซากา
  • Tenjimbashisuji-6-Chome ซอยละลายทรัพย์ยาวสองกิโลเมตร แต่มาทางรถใต้ดินก็ได้
  • Arashiyama จุดที่ผมชอบที่สุดในเกียวโต ป่าไผ่ (Bamboo Groove) ที่ติดอันดับเส้นทางที่สวย 20 อันดับของโลก
  • Karawamachi กลางเมืองเกียวโต ใกล้ตลาดนิชิ
กลับมาเรื่องตั๋วมีแบบ 1 วันและ 2 วันติด ราคา 700 และ 1,200 เยนตามลำดับ พักอูเมดะใช้ไปสายโกเบวันหนึ่ง อีกวันไปสายเกียวโตก็คุ้ม  รายละเอียดดูได้ที่นี่

ประสบการณ์ส่วนตัว

ได้ใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน  2014 ซื้อแบบ 1 วันโดยใช้โดยสารจาก Umeda ไป Tenjimbashisuji-rokuchome ถนนละลายทรัพย์ (220 เยน) ไปกินซูชิร้าน Harukoma (春駒) ซึ่งเป็นร้านโปรด จากนั้นไป Arashiyama (370 เยน) ชมใบไม้แดง ต่อจากนั้นวิ่งเข้าตัวเมือง Kyoto สถานี Kawaramachi (220 เยน) เพื่อไปชมวัดน้ำใส Kiyomizudera (清水寺) แล้วกลับมานอน Umeda (400 เยน) ถ้าจ่ายจริงรวม 1210 เยน

ซื้อได้ที่

  • Kansai International Airport Travel Desk (ออกมาจากรับกระเป๋าอยู่ขวามือ)
  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • Hankyu Tourist Information Center ที่สถานี Hankyu Kawaramachi เกียวโต
  • Hanshin Electric Railway Service Center ที่สถานี Hanshin Sannomiya โกเบ

Hanshin Tourist Pass

เป็นอีกทางเลือกที่จะไปโกเบ เหมาะมากถ้าพักที่นัมบะหรืออูเมดะแลัวต้องการโดยสารไปไกลกว่าสถานี Sannomiya ราคาก็ถูกกว่า Hankyu Pass แค่ 500 เยนเท่านั้นเส้นทางตามนี้
จุดที่น่าเที่ยวบนเส้นนี้ได้แก่
  • Kokosu-Nagata ไปชมอนุสาวรีย์หุ่นเหล็กหมายเลข 28
  • Kobe-Sannomiya สเต็กเนื้อโกเบนั่นแหละ
  • Nishinomiya ทัวร์โรงงานผลิตสาเก
  • Mikage ไปต่อ Cable Car ขึ้นภูเขา Rokko ได้ที่สถานีนี้
โดยส่วนตัวยังไม่เคยใช้ แต่เคยวางแผนจะใช้อยู่เหมือนกันเพราะถูกดี รายละเอียดดูได้ที่นี่

ซื้อได้ที่

  • Kansai International Airport Travel Desk (ออกมาจากรับกระเป๋าอยู่ขวามือ)
  • Hankyu Tourist Center ที่สถานี Hankyu Umeda
  • Hanshin Electric Railway Service Center ที่สถานี Hanshin Sannomiya โกเบ
  • BIC Camera นัมบะ
เดี๋ยวมาต่อตั๋วแบบอื่น

ตอนที่เกี่ยวข้อง

เที่ยวญี่ปุ่น: โอซากา

09 กันยายน 2557

สถาบันสถาปนา

หนึ่งในหนังสือโปรดชุดหนึ่งของผมคือ The Foundation Series ของ Isaac Asimov แม้ยังไม่เคยอ่านฉบับภาษาอังกฤษ แต่ฉบับภาษาไทยที่อ.ยรรยงค์ เต็งอำนวยแปล ได้อ่านครบทุกเล่มในชื่อสถาบันสถาปนา จุดเริ่มต้นของการอ่านหนังสือชุดนี้มาจากตอนที่เรียนอยู่ม.4 เพื่อน ศรันย์ ผโลประการ ลากไปดูละครเรื่องสถาบันสถาปนา ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬา ในงานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรม และจุฬาวิชาการ’27 แล้วประทับใจมาก จึงเริ่มไล่อ่านจากสถาบันสถาปนา สถาบันสถาปนาและจักรวรรดิ (The Foundation and the Empire) สถาบันสถาปนาแห่งที่สอง (The Second Foundation) จนจบที่เล่มที่ 4 สถาบันสถาปนาและปฐมภพ (The Foundation Edge) เป็นเล่มสุดท้ายก่อนที่จะเข้าวิศวฯจุฬา

อันที่จริงผมเป็นแฟนตัวยงของ Isaac Asimov ในนิยายชุดหุ่นยนต์ มาก่อนหน้านี้ ทั้ง I Robot, นักสืบหุ่นยนต์ Cave of Steel, นครสุริยะ The Naked Sun, นครอรุณรุ่ง Robot of the Dawn รวมถึงเรื่องสั้น Bicentennial Man ซึ่งเขียนถึงแนวความคิดกฎสามข้อของหุ่นยนต์ พอมาอ่านเรื่องนี้แล้วก็เลยชอบ Isaac Asimov มากขึ้นไปอีก

ขอพูดถึงชุดนักสืบหุ่นยนต์เล็กน้อย ในชุดนี้มีตัวละครหลักอยู่ 1 คนชื่อ Elijah Baley และ คู่หูหุ่นยนต์นักสืบ Daneel Olivaw ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Star Trek Generation ก็ประมาณกัปตันพิคาร์ดกับดาต้า

จนมาถึงเล่ม 5 สถาบันสถาปนาและโลก Asimov ก็ทำผมแทบช็อคเมื่ออ่านไปถึงตอนท้ายมีการเฉลยผู้ที่อยู่เบื้องหลังสถาบันสถาปนาก็คือ Daneel Olivaw ซึ่งอยู่มาหลายพันปี เอาสองชุดมาต่อกันเสียอย่างนั้น (แต่ตอนนั้นยังไม่ได้อ่าน Robot and the Empire ซึ่งออกมาก่อน ถ้าอ่านอาจจะไม่ช็อคเท่าไรเพราะมีการบอกใบ้ไว้เหมือนกันในเรื่องกฏข้อที่ 0 ของหุ่นยนต์)

ที่จริงมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่มีแค่สองชุด แต่มีหนังสือชุดที่เกี่ยวกับจักรวรรดิทราสทอร์ตอนเริ่มสร้าง ได้แก่ Pebble in the Sky (ไม่ได้อ่าน), ลาแล้วโลก Current of Space และ ดาวดั่งธุลี The Stars, Like Dust ซึ่งสองเล่มหลังได้มีโอกาสอ่านฉบับแปล แต่ก็ทำหายไปแล้ว

ต่อจากละครสถาบันสถาปนา ของคณะวิศวฯ จุฬาเมื่อตอนก่อนเข้า พอมาอยู่ปีสอง (หรือสามหว่า ไม่แน่ใจ) ก็มีโอกาสได้มาทำละครตอนต่อคือ สถาบันสถาปนาและจักรวรรดิกับพี่สุชาดา ดูแลเรื่อง Sound Effect โดยใช้เครื่อง Macintosh Classic + SE (โดยมีละครซ้อมมือก่อนหน้าคือ Against Gods ที่พี่วศิน เพิ่มทรัพย์มาสัมภาษณ์ไปลงวารสารคอมพิวเตอร์สักเล่ม) แต่ไม่ได้ใช้ทั้งเล่มตัดมาแค่ครึ่งแรก ไม่มีมโนมัย

ถ้ามีโอกาสจะรวบรวมทุกเล่มในชุดนี้ ซึ่งตอนนี้มีแค่ 7 เล่มที่ใช้ชื่อ The Foundation เท่านั้น
คิดถึง Isaac Asimov ผู้ที่ทำให้ผมสนใจไม่เพียงแต่วิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่รวมไปถึงสังคมศาสตร์ด้วย