26 สิงหาคม 2558

เที่ยวญี่ปุ่น: ลายแทงโอซากา


เนื่องจากน้องๆ ที่รักหลายคนจะไปเที่ยวโอซากา และขอให้เขียนลายแทงสำหรับเที่ยวโอซากาให้หน่อยจึงขอบันทึกลายแทงการเที่ยวโอซากาฉบับส่วนตัว อาจจะไม่ค่อยเหมือนใคร เพราะรสนิยมไม่ค่อยเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวเท่าไร จึงขอรวบรวมไว้ดังนี้

จุดยอดนิยม Dotonburi

Dotonburi ย่านมินามิ (Minami) เป็นจุดหมายยอดนิยมในโอซากา อยู่ริมคลอง Dotonburi ในเขตนัมบะ (Numba District) เป็นเขตเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมี Landmark ก็คือป้ายกูลิโกะ และร้านปู Kanidoraku นอกจากร้านต่างๆ ทั้งร้านอาหารและสถานบันเทิงจะเรียงรายไปตามริมคลองแล้วนั้น ยังสามารถเดินชอปปิ้งไปด้านทิศเหนือด้วยถนนคนเดิน Shinsai Bashi ไปจนถึงสถานี Shinsaibashi หรือจะไปทางทิศใต้ชอปปิ้งถนน Ebisu Bashi ไปจนถึงสถานีนัมบะก็ได้

คลอง Dotonburi
ร้านปู Kanidoraku ส่วนร้านกาแฟยอดนิยมอยู่ตรงข้าม
ป้ายกูลิโกะใหม่
ถนนคนเดิน Ebisu Bashi-Suji

กิจกรรมที่น่าทำ

ถ้าใช้ Osaka Amazing Pass การล่องเรือในคลอง Dotonburi ก็เป็นกิจกรรมที่คุ้มค่าตั๋ว แต่ถึงไม่ใช้ Pass การนั่งเรือก็ยังน่าสนุกอยู่ดี (900 เยน)


นอกจากนั้นการเก็บภาพถ่ายตัวเอง (Selfie) กับป้ายไฟกูลิโกะ ก็เป็นเรื่องน่าสนุก แต่ต้องอาศัยฝีมือการจัดแสงมากพอควรเพื่อให้ได้ภาพสวย อีกทั้งป้ายเปลี่ยนสีไปตลอดเวลา จึงต้องกะจังหวะดีๆ ด้วย ถ่ายกลางคืนอย่าลืมใช้แฟลช

ถ้าจะช้อป

มีร้าน Daiso (100 เยน) ที่ใหญ่มากร้านหนึ่งแถว Ebisubashi ถ้าเดินจาก Dotonburi จะอยู่ซ้ายมือ  ให้สังเกตุร้าน ABC Mart ด้านขวามือ Daiso จะอยู่ในซอยด้านตรงข้าม แต่ถ้าเดินเลยมาอีกซอยก็ได้เพราะร้านใหญ่ขนาดมีหน้าร้านทั้งสองซอย ซึ่งจุกที่ปักหมุดไว้จะเลย ABC Mart มาอีกซอย


อาหารการกิน

บอกตรงๆ ว่าไม่เคยกินอาหารแถวนี้ แต่จากเพื่อนๆ ที่มาทาน อาหารสี่อย่างที่ขึ้นชื่อคือ ราเมง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งราเมงข้อสอบ Ichiran) สเต๊กวากิว ปู และซูชิ

การเดินทาง

สถานีที่ใกล้ที่สุดคือรถใต้ดินสถานีนัมบะ รองลงมาคือ JR Namba หรือจะลงสถานีรถใต้ดิน Shinsaibashi แล้วเดินลงมาทางทิศใต้ผ่านถนนคนเดิน Shisaibashi ก็ได้

เที่ยวทางน้ำที่ Tempozan

Tempozan เป็นส่วนหนึ่งของที่ท่องเที่ยวแถบอ่าวโอซากาใกล้กับ Universal Studio Japan (USJ) ประกอบด้วยชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (Tempozan Ferris Wheel) ตลาด (Marketplace) โอซากาอควอเรียม (Kaiyukan) และศูนย์วัฒนธรรมโอซากา (Osaka Culturarium) เรียงกันเป็นลำดับถ้าเดินมาจากสถานีรถไฟฟ้าหรือป้ายรถเมล์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้จัก Kaiyukan เป็นอย่างดี (แต่ว่าผมไม่เคยเข้า)

Tempozan Giant Ferris Wheel เคลมว่าเป็นหนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!!
ภายใน Tempozan Marketplace
Food Park ใน Tempozan Marketplace

Kaiyukan (Osaka Aquarium) ไม่ได้เข้าหรอก แต่ถ่ายมาเฉยๆ

กิจกรรมที่น่าทำ

นอกจากจะเข้า Osaka Aquarium แล้วถ้าใช้ Osaka Amazing Pass นั่งเรือ Santa Maria ชมอ่าวโอซากาก็จะคุ้มค่ามาก (1,600 เยน) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วก็นั่ง Tempozan Giant Ferris Wheel ชมอ่าวโอซากาจากมุมสูงก็ Slow Life ดี (800 เยน) ถ้าใจกล้าแนะนำให้นั่งแบบที่นั่งพื้นใส
บนเรือ Santa Maria ชมอ่าวโอซาก้า
ท่าเรือที่ขึ้น Santa Maria อยู่หลัง Kaiyukan
ชิงช้าสวรรค์ถ้าจะมีสองแบบให้เลือก แบบนึงพื้นใสมองเห็นข้างล่างได้ กับอีกแบบพื้นทึบปกติ บอกพนักงานตรงทางเข้า
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าสนใจแต่ไม่ค่อยมีคนไทยทราบก็คือการเข้าชมนิทรรศการที่ศูนย์วัฒนธรรมโอซากา (Osaka Culturarium) ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนที่ผมไปช่วงเดือนสิงหาคมปี 2014 เป็นนิทรรศการ The Art of Gandum ซึ่งแสดงการออกแบบตัวละครหลักใน Gumdam ภาคแรก หุ่น Gundam RX-72, Zakku แนวคิดพลอตเรื่อง ฟิล์มการ์ตูนต้นฉบับ ภาพวาดของ Yas ที่เป็นต้นฉบับ เป็นต้น ส่วนในปี 2015 เดือนกรกฎาคมถึงกันยายนก็จะจัดแสดงเรื่อง นินจานารุโตะ ส่วนถ้าจะไปช่วงไหนแล้วอยากรู้ว่านิทรรศการที่น่าสนใจหรือไม่ ตรวจสอบได้ที่ http://www.osaka-c-t.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น) หรือใช้วิธีค้นใน Google โดยใช้คำว่า Osaka Culturarium Tempozan แล้วตั้ง Search tools เป็น Past month ก็ได้
บัตรเข้าชม The Art of Gundam ที่ Osaka Culturarium Tempozan เมื่อเดือนสิงหาคม 2014

ถ้าจะช้อป

ก็ใน Tempozan Marketplace มีของหลายชนิดหลายประเภทเลือกกันตามสะดวก

อาหารการกิน

ใน Tempozan Marketplace มี Food Court อาหารที่ขึ้นชื่อคือทาโกยากิและโอโนมิยากิ

การเดินทาง

ลงรถใต้ดินสถานี Osakako แต่สถานีนี้อยู่เหนือพื้นนะครับ หลังจากออกจาก Gate ด้านทิศตะวันตกจะเห็นป้ายทางออกไป Tempozan/Kaiyukan อยู่ทางขวามือ (Exit 1, 2) ซึ่งจากสถานีไปถึง Tempozan จะเดินไกลมาก ให้ออกทางออกซ้ายมือ (Exit 3) แล้วลงมาเดินย้อนกลับไปเล็กน้อยจะเห็นป้ายรถเมล์ นั่งสาย 51, 60, 72 หรือ 88 ไปสุดสายที่ Tempozan ตรง Ferris Wheel จะไม่ต้องเดินไกลมาก ซึ่งถ้ามี Osaka Amazing Pass หรือ Subway/Bus 1-day Pass ก็ขึ้นฟรี นี่เป็นทิปซึ่งมีแต่ Blog นี้ที่บอกนะ อิอิ

ขากลับก็มานั่งรถเมล์ที่จุดเดียวกับที่ลงเพราะเป็นป้ายต้นสายและสุดสาย รถจะกลับรถแล้ววิ่งกลับมา ยังสถานี Osakako

ป้ายรถเมล์ตรงสถานีรถใต้ดิน Osakako ต้องดูว่า for Tempozan ไม่งั้นคือผิดป้าย อาจลงผิดฝั่ง

ซอยละลายทรัพย์

ผมกำลังพูดถึงซอย Tenjinbashisuji ซึ่งทอดยาวตั้งแต่เหนือลงไปทางใตั ระหว่างสถานีรถใต้ดิน Tenjinbashisuji 6-Chome (Rokkuchome) กับสถานีรถใต้ดิน Minamimorinachi ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีของสารพัดอย่างขายทั้งของกิน ของใช้ ร้านอาหาร ซึ่งโดยมากราคาถูก ผมเคยซื้อยูกาตะคุณภาพพอใช้ได้ในราคาชุดละ 690 เยน ของฝากหลายอย่างก็มาซื้อเอาที่นี่เหมือนกัน ซื้อมากกระเป๋าไม่พอก็ซื้อกระเป๋าขนของกลับที่นี่ได้ ราคาไม่แพง

กิจกรรมที่น่าทำ

มาถึงนี่กิจกรรมที่น่าทำก็คือกินและช้อปเท่านั้น ตามแต่มีเงินเท่าไร ส่วนใหญ่รับเงินสด

อาหารการกิน

มีหลายร้านให้เลือก แต่ที่ผมว่าดีสุดในแถบนี้ต้องร้านซูชิ Harukoma มีสองร้านร้านหนึ่งติดซอยหลัก แต่อีกร้านอยู่ในซอยย่อย (ป้ายมีรูปม้า) ไม่รู้ว่าร้านไหนเป็นร้านแรก ทั้งสองร้านห่างกันไม่มาก อยู่ระหว่างสถานีรถใต้ดิน Tenjinbashisuji 6-Chome กับสถานี JR Tenma ตามแผนที่ด้านล่าง

ต้องบอกว่าปลาที่นี่สดมาก อร่อยและราคาไม่แพง เช่น Chutoro สองชิ้นราคาแค่ 320 เยน ผมมาโอซากาต้องหาเวลามากินที่นี่เสมอ เปิด 11:00 ก่อนเปิดก็จะมีคนมายืนรอคิวนานเลย มาแต่ละครั้งต้องรอเพราะแต่ละร้านที่นั่งไม่เยอะ บางครั้งก็นั่งมาลง Tenjibashisuji 6-Chome เพื่อกินซูชิที่นี่อย่างเดียวแล้วก็ไปเที่ยวที่อื่นต่อ ทั้งสองร้านขอเมนูภาษาอังกฤษได้นะครับ
ร้านที่อยู่ติดซอยหลัก
ร้านนี้อยู่ในซอยย่อย

การเดินทาง

สามารถเลือกลงสถานีรถใต้ดิน Tenjinbashisuji 6-Chome, Ogimachi หรือ Minamimorimachi ก็ได้ หรือถ้าเป็นรถไฟ JR ก็ลงสถานี JR Tenma หรือ Osakatenmaku ก็ได้ โดยส่วนตัวชอบลงที่ Tenjinbashisuji 6-Chome แล้วเดินลงมาเรื่อยๆ แวะกินซูชิที่ Harukoma แล้วเหนื่อยแถวสถานีไหนก็กลับจากสถานีนั้น

เนื่องจาก Tenjinbashisuji 6-Chome ซึ่งเป็นสถานีของรถไฟ Hankyu สาย Senri เช่นกัน จึงสามารถมาจาก Kyoto หรือ Kobe ได้โดยไม่ยากโดยมาเปลี่ยนรถที่สถานี Awaji

แช่ออนเซน

Spa Suminoe (天然露天温泉 スパスミノエ)

แถบโอซากามีบ่อน้ำร้อนอยู่หลายที่ แต่ที่ผมว่าเด็ดที่สุดในตัวเมืองโอซากาคือ Spa Suminoe (天然露天温泉 スパスミノエ) เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีหลายประเภทที่สุด มีจากุซซีหลายแบบให้แช่ น้ำแร่หลายแบบอีกเหมือนกัน มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมีซาวน่าให้เลือกหลายห้องที่อุณหภูมิต่างๆ กัน ห้องไอน้ำก็มี สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ สามารถพักผ่อนได้ทั้งวัน เปิด 10:00-21:00 วันธรรมดาจะอยู่ที่ 650 เยน ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะราคา 750 เยน แต่ถ้าใช้ Osaka Amazing Pass ก็เข้าฟรี อย่างไรก็ตามไม่รวมผ้าเช็ดตัวและผ้าขนหนูซึ่งต้องนำไปเอง ถ้าไม่มีต้องซื้อผ้าขนหนูในราคา 100 เยน
ด้านหน้าจะมีสัญลักษณ์ประมาณนี้

อาหารการกิน

ที่ Spa Suminoe มีร้านอาหารบริเวณพักผ่อนนอกที่อาบน้ำไว้บริการ ราคาไม่แพง

การเดินทาง

ลงสถานีรถใต้ดิน Suminoekoen หรือ ถ้ามาจาก Tempozan ก็ขึ้นจาก Osakako มาต่อรถรางที่ Cosmo Square แล้วนั่งมาจนสุดสายที่ Suminoekoen ก็ได้ จากสถานีให้ออก Exit 2 มาทางสนามแข่งเรือ Sumino Kyotei Stadium แล้วเดินผ่านทางเข้าสนามแข่งเรือมาทางสนามไดรฟ์กอล์ฟ จะมีทางเข้าอยู่ก่อน Numco เดินเข้ามาผ่านซุ้มวงกลม ทางเข้าจะอยู่เยื้องไปทางซ้ายมือ

Naniwa no Yu (天然温泉 なにわの湯)

ทางตอนเหนือของโอซากามีออนเซ็นอีกที่ที่เป็นที่นิยมคือ Naniwa no Yu (天然温泉 なにわの湯) ในแถบ Kita ผมลองไปแล้วก็เฉยๆ แต่ข้อดีคือเปิดดึกถึงตีหนึ่ง วันธรรมดาเปิด 10:00 วันเสาร์อาทิตย์เปิด 8:00 ค่าบริการ 800 เยน แต่เข้าฟรีถ้าใช้ Osaka Amazing Pass ไม่มีผ้าขนหนูและผ้าเช็ดตัวให้เช่นกัน ต้องนำไปเองหรือซื้อผ้าขนหนูที่ทางเข้าได้ 

อาหารการกิน

เนื่องจากเป็นออนเซนที่อยู่บนตึก ทั้งตึกเป็น Entertainment Complex มีที่เที่ยวและร้านอาหารหลายร้านเลยทีเดียว

การเดินทาง

แม้ว่าจะใกล้สถานี Tenjinbashisuji 6-Chome มากกว่าแต่ต้องเดินประมาณ 8 นาที ถ้าไม่กลัวหลงขึ้นรถเมล์สาย 34 จากหัวลำโพง เอ้ยไม่ใช่ จากด้าน West Gate ของ JR Osaka หรือด้านตะวันตกของสถานี Umeda จะใกล้กว่า ดูตาม Google Map ด้านล่าง แชร์ให้มือถือได้เลย

แต่ถ้าจะมาใช้บริการหลังจากช้อปปิ้งที่ Tenjinbashisuji ก็ไม่เลวนะครับ เพราะไม่ไกลกัน แต่ต้องวางแผนเดินช้อปจากทางทิศใต้ขึ้นมาจากสถานีรถใต้ดิน Ogimachi หรือ JR Tenma เดินขึ้นไปยังสถานี Tenjinbashisuji 6-Chome (Rokkuchome) หลังจากนั้นขากลับค่อยนั่งสาย 34 หน้าตึกมาลง JR Osaka หรือ Umeda ก็ได้

ออนเซ็นอื่น

มีคนแนะนำ Spa World ซึ่งตั้งอยู่แถว Tennoji เป็นออนเซ็นที่ใหญ่มาก แต่ก็ยังไม่เคยเข้าสักที บันทึกไว้เพื่ออ้างอิงก็แล้วกัน เข้าไปชมได้ที่ http://www.spaworld.co.jp/english/service.html

พิพิธภัณฑ์

ขอเว้นไว้ไม่พูดถึงปราสาทโอซากาที่เป็นพิพิธภัณฑ์เหมือนกัน สามารถหาอ่านได้ทั่วไป แต่จะไปรีวิวพิพิธภัณฑ์นอกเมืองสองแห่งคือพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของนิชชิน (Instant Ramen Museum) และพิพิธภัณฑ์มังงะของเทตซึกะ โอซามุ (Tezuka Osamu Manga Museum)

พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของนิชชิน (Instant Ramen Museum)


ต้นตำรับของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่โอซากานี่เอง และนิชชินก็มาสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ Ikeda ในโอซากา ในพิพิธภัณฑ์จะมีการแสดงการพัฒนาการของบะหมีกึ่งสำเร็จรูปจากยุคแรกจนถึงการออกแบบให้สามารถกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ในสถานีอวกาศ รวมทั้งบะหมีนิชชินรสชาดต่างๆ ที่ได้มีวางจำหน่ายตั้งแต่อดีต ใครชอบบะหมีกึ่งสำเร็จรูปน่าจะถูกใจ

กิจกรรมที่น่าทำ

ทำ Cup Noodle ในแบบของตัวเองที่ My Cup Noodle Factory เป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช่วงหน้าร้อนเดือนสิงหาคมที่เป็นช่วงปิดเทอม เด็กๆ มาทำกันอย่างสนุกสนาน ผู้ใหญ่อย่างผมก็สนุกเช่นกัน เริ่มจากการนำถ้วยมาตกแต่งเป็นลายของตัวเอง สามารถทำได้ครั้งละหลายถ้วยก็ได้ในราคาถ้วยละ 300 เยน จากนั้นก็เอามาบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เลือกเครื่องปรุงมาใส่ในรสชาดของตัวเอง ปิดผนึกฝา และห่อพลาสติกออกมาเป็นเหมือนบะหมีถ้วยที่วางขายตามร้าน แต่ในรูปแบบของตัวเราเอง

หากมีเวลามากขึ้นสามารถเข้าร่วม Workshop บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการนวดแป้งเลยก็ได้

อาหารการกิน

เรากินบะหมี่ถ้วยที่เราออกแบบไว้ก็ได้ แต่อย่าเลยเก็บมาเป็นของที่ระลึกดีกว่า อย่างไรก็ตามที่พิพิธภัณฑ์ไม่ได้มีของกินมากนัก มี Vending Machine ที่กดบะหมีกึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ และเครื่องดื่มเท่านั้น หากไม่ต้องการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เดินกลับมาทางสถานี Ikeda จะมีร้านราเมงครบเครื่องอยู่ร้านหนึ่ง

การเดินทาง

จากสถานี Hankyu Umeda นั่งรถไฟสาย Takarazuka มาลงสถานี Ikeda จากนั้นเดินออกด้านทางออกตะวันออก เดินมาตามถนนมาทางตะวันออกเฉียงใต้ สังเกตุ Ikeda Tourist Office ที่มีรูปตัว i (Information) หรือร้าน VOX ซึ่งอยู่ปากซอยอีกฝั่งทางด้านขวามือ ให้เดินเลี้ยวขวาเข้าซอยนั้น ซึ่งเดินรถทางเดียวสวนทางขึ้นมา เดินตรงไปเรื่อยๆ พิพิธภัณฑ์จะอยู่ทางขวามือ

พิพิธภัณฑ์มังงะของเทตซึกะ โอซามุ (Tezuka Osamu Manga Museum)

เทตซึกะ โอซามุ เป็นผู้ประพันธ์มังงะเรื่องดังๆ ยุคเก่า ที่มีชื่อเสียงในเมืองไทยได้แก่ เจ้าหนูปรมาณู (Atom หรือ Astro Boy), Black Jack, ชาราคุ เจ้าหนูสามตา, เจ้าหญิงอัศวิน (Princess Knight), เจ้าสมุทรไตรตัน, Magma, Big X, Jetter Mars, Kimba สิงห์ขาว เป็นต้น หากใครมีความหลังกับตัวละครในเรื่องเหล่านี้ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์นี้เลยครับ

แม้ว่าที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้อยู่ในโอซากาแต่อยู่ในเมือง Takarazuka จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) แต่เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงขอแนะนำไว้ด้วยก็แล้วกัน ในพิพิธภัณฑ์ก็คล้ายกับโดยทั่วไปที่จะมีส่วนแสดงถาวรและส่วนที่ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นครั้งคราว โดยในแต่ละเดือนจะมีการแจกของที่ระลึกที่ไม่ซ้ำกันจากมังงะแต่ละเรื่อง

ส่วนค่าเข้าชม 700 เยน และพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เปิดทุกวัน โดยจะปิดในวันพุธ หรือตามประกาศซึ่งดูได้จาก http://tezukaosamu.net/en/museum/

กิจกรรมที่น่าทำ

ชั้นใต้ดินมีกิจกรรมวาดการ์ตูนจากองค์ประกอบต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเป็นตัวละครจากมังงะเรื่องต่างๆ บนจอมอนิเตอร์ กิจกรรมนี้มีเป็นเป็นรอบ ผมไม่ได้วาดแต่ดูคนอื่นวาด ก็สนุกดีนะ

อาหารการกิน

ในพิพิธภัณฑ์มีร้านกาแฟ แต่ไม่มีอาหารมื้อใหญ่ๆ แนะนำให้กลับไปกินที่ห้างสรรพสินค้าที่ติดกับสถานี Hankyu จะดีกว่า

การเดินทาง

ถ้านั่งรถไฟสาย JR หรือสาย Hunkyu จาก Ikeda ให้ลงสถานี Takarazuka แล้วเดินผ่านห้างสรรพสินค้าที่ติดกับสถานี Hankyu มาออกทางทิศใต้ สังเกตุจะเห็นป้ายชี้ทางไปยังพิพิธภัณฑ์เป็นรูปเจ้าหนูอะตอม เดินข้ามถนนมาจะมีทางเดินเล็กๆ ร่มรื่น ให้เดินจนสุดทางแล้วข้ามถนนมาเดินบนทางเดินเท้าฝั่งขวามือจนถึงไฟแดงจะมองเห็นพิพิธภัณฑ์จากไฟแดงนั้น
ออกจากห้างสรรพสินค้าลงมา ก็จะเห็นป้ายชี้ทางไปพิพิธภัณฑ์
หากมารถไฟ Hankyu ถ้าไม่ได้มาทาง Ikeda มีอีกเส้นทางหนึ่งคือนั่งสาย Kobe มาต่อสาย Imazu ที่สถานี Nishinomiya-Kitaguchi แล้วลงสถานี Takarazuka-Minamiguchi (ก่อนถึง Takarazuka) แล้วเดินข้ามแม่น้ำมาจะมาถึงไฟแดงเดียวกัน ซึ่งจะเดินใกล้กว่า

ตอนที่เกี่ยวข้อง

เที่ยวญี่ปุ่น: เที่ยวคันไซโดยใช้ Pass

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น