13 มิถุนายน 2554

รู้จักกับ NFC

NFC คืออะไร

นำมาจากบทความบางส่วนผมที่เขียนไว้ใน Eworld คอลัมน์ E-Commerce 4-Comment
เทคโนโลยี Near Field Communication (NFC) เป็นเทคโนโลยีที่เอื้อให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรม แลกเปลี่ยนข้อมูลรูปแบบดิจิทัล และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างง่ายดายด้วยการสัมผัส NFC ได้ถูกใช้งานในหลากหลายธุรกิจและกำลังจะถูกนำมาใช้งานหลากหลายรูปแบบในอนาคตเช่น การควบคุมการเข้าออก การแลกเปลี่ยนข้อมูลในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ธุรกิจการดูแลสุขภาพ การเก็บรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูล การสะสมแต้ม คูปองอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงิน หรือใช้ในระบบขนส่ง
ประโยชน์หลักๆที่ได้จาก NFC เช่น
  • ง่ายต่อการใช้งาน เพียงแค่เพียงการสัมผัส
  • ใช้งานได้หลายอย่าง ได้กับหลายอุตสาหกรรม สภาวะแวดล้อม หลากหลายรูปแบบ
  • มีมาตรฐานรองรับและเป็นมาตรฐานเปิด ได้แก่ ISO, ECMA และ ETSI
  • ถูกออกแบบให้เร็วและง่ายต่อการติดตั้ง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีไร้สายแบบอื่น
  • ปลอดภัยเมื่อคำนึงถึงการใช้งานซึ่งถูกออกแบบให้ทำงานในระยะใกล้ไม่กี่เซนติเมตร
  • สามารถใช้งานได้กับเทคโนโลยีบัตรแบบสัมผัสความถี่ 13.56 MHz ที่มีอยู่ในตลาดแล้วได้
  • รองรับการใช้งานที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

รูปแบบการทำงานของ NFC

NFC มีมาตรฐานของตัวเองคือ ISO 18092 แต่ก็ให้ความสำคัญกับการเข้ากันได้กับมาตรฐาน Contactlessเดิมที่เป็นที่นิยมในตลาดนั่นคือ ISO 14443 ซึ่งถูกใช้ใน
  •  Access Control เช่น บัตร iCLASS ของ HID
  • Contactless Smart Card เช่นบัตรโดยสาร BTS หรือบัตร E-Purse ของไทยสมาร์ทการ์ดที่ใช้กับร้าน 7-eleven
  • Biometric Passport ที่เรียกกันว่า E-Passport
  • PayPass Contactless Credit Card เช่น Visa Wave (หรือ payWave) ของธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย
นอกจากนั้นยังรองรับ RFID Smart Card ของ Sony ตามมาตรฐาน JIS X6319-4 ที่ชื่อ FeliCa ซึ่งถูกใช้กันแพร่หลายในเอเชีย เช่นบัตรโดยสารและเหรียญรถใต้ดิน MRT กรุงเทพ บัตร Octopus ของฮ่องกง ระบบชำระเงินบนมือถือของ NTT DoCoMo เป็นต้น เนื่องจาก ISO 18092ใช้ RF Modulationแบบ Manchester เช่นเดียวกับ FeliCa
เรามาศึกษาแต่ละโหมดของ NFC ว่าจะนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง

NFC Card Emulation Mode

ในโหมดนี้จะทำงานเสมือนเป็นบัตร Contactless ซึ่งนั่นหมายความว่าอุปกรณ์มือถือตามมาตรฐาน NFC จะทำตัวเป็นบัตรในรูปแบบใดก็ได้ตามมาตรฐาน ISO 14443 และ FeliCa ที่พบมากก็คือเป็น Contactless Smart Card เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมเช่น Touch SIM จาก True ซึ่งใช้กับระบบ Truemoney หรือเป็นบัตรเครดิต Visa Wave เช่น GSM Mobile payWave จาก AIS และธนาคารกสิกรไทย
นอกจากนั้นเราสามารถขยายการใช้งานอุปกรณ์ NFC ชิ้นเดียวเป็นบัตรหลายใบได้เช่นเป็นบัตรเครดิต บัตรโดยสารรถ BTS MRT บัตรเงินสด บัตรสะสมแต้ม เป็นต้น ทำให้เมื่อ NFC เป็นที่นิยมและผู้ให้บริการบัตรต่างๆ ทำ Application สำหรับบริการของตนลงบนอุปกรณ์ เราอาจไม่ต้องพกบัตรมากมาย เช่น Visa อาจจะออก Application ที่สามารถแทน Visa Wave หลายบัญชีและให้เราเลือกบัญชีที่ต้องการใช้ได้จากโทรศัพท์มือถือ หรือ Sony อาจจะออก Applicationที่ใช้จำลองบัตร FeliCa เพื่อที่เราสามารถเอาโทรศัพท์มือถือของเราไปลงทะเบียนกับ MRT เพื่อใช้แทนบัตรโดยสารได้
ในโหมดนี้เราสามารถนำมาใช้กับระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้ เราจึงจะได้ประโยชน์จาก NFC อย่างเห็นเป็นรูปธรรมที่สุด

Peer-to-Peer Mode

ใน โหมดนี้จะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ NFC ด้วยกัน คล้ายกับการที่มือถือมี Bluetooth แล้วทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยการการจับคู่ (Pair) เครื่องเข้าด้วยกันแล้วแลกเปลี่ยนข้อมูลเช่นนามบัตร รูปถ่าย แฟ้มข้อมูลอื่นๆ แต่ว่าสำหรับ NFC แล้ว ไม่ต้องมีการจับคู่เหมือน Bluetooth เพียงแค่เลือกข้อมูลที่ต้องการแลกเปลี่ยนแล้วนำอุปกรณ์ NFC ที่รองรับโหมดนี้มาแตะกัน ข้อมูลก็จะทำการถูกถ่ายกันระหว่างเครื่อง เพราะรัศมีทำการของ NFC อยู่ในระดับน้อยกว่า 10 ซม ซึ่งต่างจาก Bluetooth ซึ่งออกแบบไว้ให้สื่อสารข้อมูลในระยะหลายเมตร
การ แลกเปลี่ยนข้อมูลทำได้ผ่านโปรโตคอล TCP/IP หรือ OBEX (เหมือนกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่าน Bluetooth หรือ IrDA) นอกจากแลกเปลี่ยนข้อมูลแล้วยังสามารถใช้ทำการ synchronize ข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆได้ด้วย

Reader/Writer Mode

ใน โหมดนี้อุปกรณ์ NFC สามารถทำตัวเสมือนเป็นเครื่องอ่านเขียน Contactless Smart Card (หรือบางครั้งเรียกว่า Tag) โดยจะสามารถอ่านข้อมูลจาก Tag ที่ติดอยู่ใน Smartposter หรือจุดให้บริการข้อมูล การประยุกต์ใช้งานเช่น ทำการส่งเสริมการขายโดยแจกคูปองส่วนลดสำหรับ 50 คนแรกที่มาอ่านโฆษณาที่จุดให้บริการ ซึ่งการทำการกำหนดจำนวนแบบนี้ไม่สามารถทำได้โดยการใช้ 2D Bar Code
Tag ยังสามารถทำ One-Touch Setup สำหรับ Wi-Fi และ Bluetooth คือช่วยในการจับคู่อุปกรณ์ NFC ที่มี Bluetoothหรือ Wi-Fi ในโหมด Ad-hoc เพียงแค่เอาอุปกรณ์มาแตะกันก็จะการจับคู่ให้อัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น