จากตอนที่แล้วพูดถึงการเดินทางด้วย Hokoriku Shinkansen จากโตเกียวมาโทยามะ ของอร่อยโทยามะคือซูชิโดยเฉพาะอย่างยิ่งโทโรทั้งหลาย และการฝากสัมภาระให้ไปส่งปลายทางเพื่อเที่ยวเส้นทางแอลป์ญี่ปุ่นโดยไม่ต้องแบกสัมภาระตามไปด้วย ก็จะเริ่มการเดินทางณ.บัดนี้
ตั๋วโดยสารรวมทั้งเส้นทาง
หลังจากจัดการอาหารเช้าที่โรงแรม และจ่ายเงินค่าบริการส่งสัมภาระไปยังสถานี JR Shin-Omachi เสร็จก็ได้เวลาเดินทาง โดยตั้งต้นที่สถานี Dentetsu Toyama ซึ่งอยูถัดจากสถานี JR ไปทางทิศตะวันออก ทีสถานีก็มีพนักงานมาถามว่าจะไปถึงสถานีไหน แล้วก็มีตารางให้ดูประมาณนี้
| One-Way | Round-Trip |
Tateyama | 1,200 | 2,400 |
Bijodaira | 1,900 | 3,800 |
Murodo | 3,630 | 7,260 |
Daikanbo | 5,790 | 11,580 |
Kurobedaira | 7,090 | 14,180 |
Kurobeko | 7,950 | 15,900 |
Ogizawa | 9,490 | |
|
แนวเส้นทางการเดินทางในแต่ละสถานี รูปจาก http://www.travel-around-japan.com |
ตอนแรกผมบอกไปว่าจะไปถึง JR Shin-Omachi แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตั๋วมีให้เลือกไปถึงแค่ Ogizawa เท่านั้นก็เลยบอกว่างั้นไป Ogizawa เจ้าหน้าที่ก็เขียนใบเล็กๆ เหมือนใบคำสั่งยื่นให้แล้วชี้ไปที่ขายตั๋ว ซึ่งในส่วนนี้จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ หน้าตาตั๋วจะเป็นตามรูป
|
ตั๋วรวมของยานพาหนะทุกชนิดตั้งแต่ Dentensu Toyama ไปยัง Ogizawa |
แต่เนื่องจากขบวนถัดไปเป็นรถเร็ว จึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแบบไม่จองที่นั้งอีกคนละ 200 เยนเป็นเงินสด และจะได้ตั๋วเล็กๆ เก็บไว้ให้นายสถานีปลายทาง
รถไฟ Toyama Chiho สาย Tateyama
รถไฟสายนี้วิ่งระหว่างโทยามะกับทะเตยามะ เป็นสายถึ่งท่องเที่ยวจะมีแวะจอดให้ชมทัศนียภาพ ถ่ายรูปอยู่ 1 จุดก่อนถึงทะเตยามะ ขบวนรถเร็วจะมี 3 ตู้ หัวท้ายจะเป็น Non-Reserved Seat ส่วนตู้กลางจะเป็นรถสองชั้นแบบ Reserved Seat
|
ตู้แบบ Reserved Seat |
|
ที่นั่งในตู้ Non-Reserved Seat |
|
จุดที่รถไฟหยุดให้ชม ซึ่งตากล้องถ่ายภาพกันที่จุดนี้มากมาย |
|
ทัศนียภาพก่อนถึงสถานีทะเตยามะ |
|
จุดนี้ลำธารเหมือนในหนังญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง |
|
ปลายทางสถานีทะเตยามะ |
กว่าจะถึงกำแพงหิมะ
ลงจากรถไฟก็ไปต่อ Cable Car ถ้าออกจากโทยามะเช้าร้านค้าไม่เปิด สามารถหาซื้อของที่จำเป็นบริเวณสถานีนี้ได้ ซึ่งสถานีรถไฟเป็นด้านล่างของเนินเขาจึงต้องเดินขึ้นไปยังชั้นบนจะเป็นสถานี Cable Car ร้านค้ามีทั้งในสถานี Cable Car และด้านนอก อารมณ์ประมาณเมืองสุดท้ายก่อนขึ้นเขาเพื่อเล่นสกี หรือเดินป่า เพราะขึ้นไปจากจุดนี้จะไม่มีร้านเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการเดินป่า หรือเล่นสกีอีกแล้ว นอกจากร้านอาหารและกิฟต์ชอปในสถานีต่างๆ น้องสาวก็ซื้อรองเท้าผ้าใบจากร้านที่สถานีนี้ ส่วนผมก็เตรียมเสบียงขึ้นไปกินอาหารเที่ยงด้านบนเพราะคาดการว่าจะมีคนแน่น จนต้องแย่งกันกิน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง
|
ด้านนอกสถานี Cable Car |
|
บนรถ Cable Car โชคดีที่ได้นั่งเพราะเหมือนเจ้าหน้าที่จะจัดให้แม่อยู่ใกล้ประตูรถตอนที่ Cable Car วิ่งมาเทียบพอดี |
หลังจากขึ้น Cable Car ก็มารอรถบัสที่สถานี Bijodaira เพื่อขึ้นไปยัง Murodo ดูกำแพงหิมะ สังเกตุว่าช่องทางเพื่อใช้บริการพาหนะต่างๆ จะแยกระหว่างคนที่มาเที่ยวเองกับกรุ๊ปทัวร์เสมอ แม้ว่าพวก Cable Car หรือกระเช้าต่างๆ จะขึ้นด้วยกัน แต่ก็แบ่งกันเข้า ส่วนรถโดยสารนั้นจะแยกคันกันเลยทีเดียว
|
เข้าแถวรอรถบัสขึ้นไป Murodo |
|
บนรถบัสทุกคนต้องได้นั่งเพื่อความปลอดภัย แม้ว่าจะมีเก้าอี้เสริมที่ทางเดินกลาง |
|
ทัศนียภาพระหว่างทาง |
รถบัสจะหยุดให้ชมน้ำตก Shomyo ซึ่งสูงที่สุดในญี่ปุ่น แต่ผมไม่สามารถถ่ายภาพมาได้ คนที่นั่งตอนหน้าของรถและฝั่งซ้ายของรถจะได้เปรียบ เห็นและถ่ายรูปได้ชัดเจน จากนั้นก็ขึ้นไปเรื่อยๆ และเริ่มเห็นกำแพงหิมะ
|
กำแพงหิมะที่เห็นจากรถบัส |
กำแพงหิมะที่ Murodo
รถที่ขึ้นมาถึง Murodo มีเฉพาะรถบัสที่มาจากสถานี Bijodaira เท่านั้น เข้าใจว่าเป็นการจำกัดเฉพาะคนที่มีประสพการณ์ในการขับในพื้นที่เท่านั้น อุณหภูมิตอนไปถึงไม่หนาวเท่าไร ประมาณสิบกว่าองศา แต่แสงสะท้อนมาก เอาแว่นกันแดดไปด้วยจะดีกว่า
|
เดินออกมาจากสถานีก็จะเป็นลานจอดรถ |
|
ป้ายบอกความสูง ซึ่งมีให้เห็นตลอดทุกสถานี |
|
สัมผัสกำแพงหิมะ |
|
ลานจอดรถบัส |
|
ภาพพาโนรามาถ่ายจากชั้นบนสถานี Murodo |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น