22 พฤษภาคม 2553

ความเท่าเทียมกับประชาธิปไตย มันไม่เคยมาด้วยกัน

บทความนี้คัดลอกมาจาก Facebook ของรุ่นพี่วิศวฯจุฬาคนหนึ่ง โดยไม่ได้ตัดทอน เชิญอ่าน

ทำไมไม่มีใครแม้แต่จะพยายามบอกพวกเค้าว่า "ความเท่าเทียม" กับ "ประชาธิปไตย" มันไม่เคยมาด้วยกัน สังคมที่เท่าเทียมไม่มีรวยจน คือ "คอมมิวนิสต์" ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีชนชั้นปกครองที่อยู่สบายกว่าอยู่ดี (จีนยังต้องดิ้นรนให้มีสองระบบในประเทศเดียว หลังจาก 30-40 ปีผ่านไป) หากอยากได้ประชาธิปไตย ต้องมีรวยจน หลายชนชั้นแน่นอน เค้าจะได้รู้ซะบ้างว่าตกลงจะเอาอะไร อยากรวยขึ้น หรืออยากได้ประชาธิปไตย

หรืออยากเป็นคอมมิวนิสต์ เอาให้แน่ แต่ที่แน่ๆ ถ้าอยากเป็นประชาธิปไตย และมีความเป็นอยู่ดีขึ้นมีทางเดียว เรียนหนังสือเยอะๆ ขยันทำงาน เมื่อคุณใช้สมองทำงานได้ คุณจะได้เงินมากกว่าใช้แรงทำเยอะเลย เลิกหวังแต่ว่ารัฐจะมาช่วย รัฐไม่ได้หยิบเงินมาจากฟากฟ้า เงินมาจากพวกผมที่เสียภาษีครับ มาคอยช่วยพวกคุณที่ไม่เคยเสีย ภาษี แต่คอยจะขออย่างเดียว There is no free lunch never...แล้วคุณจะได้เป็นผู้เสียภาษีเพื่อไปช่วยคนที่บ้านคุณบ้าง ส่วนความเสียหายคราวนี้คงไม่ ใช่แค่เสียตึกเสียห้างไปหรอก แต่จะทำให้เราจนลงกันถ้วนหนน้า ทั้งประเทศ อธิบายไปคงไม่เข้าใจ คงไม่รู้จัก credit rating กันหรอกนะ

Jesd Jesdpiyawong

12 เมษายน 2553

พระคัมภีร์ภาษาไทยบน Android

ต้องขอบคุณ You Jin Lee ที่เขียนโปรแกรม WithBible บน Android แล้วใช้ฐานข้อมูลเป็น SQLite (http://withbible.keepvision.net/home) ผมเลยจัดการนำข้อมูลพระคัมภีร์ของสมาคมพระคริสตธรรมมาใส่

วิธีติดตั้ง

  1. ไปที่ Market แล้ว search หาคำว่า WithBible จากนั้น Install โปรแกรม
  2. Download พระคัมภีร์ภาษาไทยจาก http://dl.dropbox.com/u/9484366/tbs.db.zip แล้วแตกออก
  3. ฐานข้อมูลพระคัมภีร์จะเก็บที่ SD Card/withbible_version/bible ตรง version คือเลขเวอร์ชัน ให้ copy เอา tbs.db ทีได้ไปเก็บที่ Folder นี้
ลองใช้งานดูนะครับ

28 กุมภาพันธ์ 2553

รวบรวมคำพยานชีวิตของผมบน Twitter

ก่อนผมมาเชื่อพระเจ้าจัดว่าเป็นคนเคร่งศาสนาคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กชอบเข้าวัด ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ และเป็นเด็กเรียนคนหนึ่ง ตั้งแต่ประถมถึงมัธยม ไม่เคยเรียนต่ำกว่าที่ 3 เลย ม 3 สอบได้ที่ 2 ของภาคการศึกษา 5 ได้ทุนจากในหลวง เข้าเตรียม แล้วสอบเทียบเข้าวิศวจุฬา

ระหว่างนั้นก็ยังเป็นคนเคร่งศาสนาจนกระทั่งสอบเข้าจุฬาได้ผมก็เริ่มเปลี่ยน ไป เที่ยวเธค เข้าผับ ตามประสาเด็กวิศวะ การเรียนก็ไม่ดี เพราะโดดเรียน จากเดิมที่รู้สึกว่า ฉันเป็นคนพิเศษ ดีกว่าคนอื่น ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่เหมือนเพื่อนๆ กลายเป็นว่า กูเอามันหมดนั่นแหละ ปี 1 2 3 ก็ไม่คิดอะไร การเรียนที่ไม่ดีตอนปี1 ก็กระเตื้องขึ้นนะ เกรดดีขึ้น แต่ตอนปี 4 รู้สึกบางอย่างทำให้มานั่งทบทวนตัวเองว่า กูเป็นอะไรไปวะ เคยเป็นเด็กดีตอนนี้ไม่ เคยวางแผนชีวิตตั้งแต่ ป6 ว่าจะเป็นวิศวกรไฟฟ้าก็ได้เป็น แต่จะจบแล้วจะเอายังไงต่อดี

วันหนึ่งก็ไปนั่งที่มาบุญครอง สมัยที่ยังมีม้านั่งให้นั่ง แล้วก็พูดออกไปว่าถ้ามีใครบนฟ้าจะฉุดให้ออกจากชีวิตแบบนี้ได้ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ดีเด่อะไร อยากเป็นคนดีแต่ทำไม่ได้ ตอนนั้นปี4เทอมสุดท้าย

ช่วงนั้นก็แปลก มีคนมาพูดเรื่องพระเจ้าให้ฟังบ่อยๆ หลายคน ก็ตอบกลับไปว่าผมมีวิถีของผม และก็ไม่สนใจ จนกระทั่งวันที่ 9 ธค 1989 ต้องไปส่งเสื้อโหลให้แม่แถวนานา ขากลับนั่งรถเมล์มาต่อที่มาบุญครอง ที่ป้ายเจอเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินตามลงมาแล้วพูดว่าพระเจ้าเสียใจในสิ่งที่ผม ทำ แทนที่ผมจะต่อว่าเขากลับคิดว่าพระเจ้าเป็นใครทำไมต้องมาเสียใจในสิ่งที่ผมทำ แล้วก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาว่ามีคนมาพูดเรื่องพระเจ้า น้องคนนั้นตอนนั้นอยู่ม5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ หลังจากนั้นก็ชวนผมไปโบสถ์แถวเพชรบุรีตัดใหม่ วันนั้นเป็นวันเสาร์ก็เลยตัดสินใจไปโบสถ์วันรุ่งขึ้น

ที่โบสถ์เจอเพื่อนวิศวะจุฬาแต่เป็นรุ่นพี่ที่เตรียมบอกว่าพระเจ้าทำบางอย่าง ในชีวิตเลิกเล่นการพนันได้ ซึ่งคนนี้สมัยอยู่เตรียมติดการพนันมาก เกือบถูกไล่ออกเพราะเล่นไพ่หลังห้อง ก็รู้สึกแปลกใจที่เลิกได้ พอเข้าไปฟังคำบรรยายในที่ประชุมมีตอนหนึ่งที่ผู้บรรยายพูดว่า "ใครที่คิดจะไปเที่ยวคอกเทลเล้าจ์ให้เลิกคิดซะ" แล้วก็หันมาทางผม ผมก็ประหลาดใจเพราะคืนก่อนหน้าหลังจากเจอน้องคนนั้นเพิ่งจะโทรนัดเพื่อนให้ พาไป
ผมเลยตัดสินใจอยากรู้จักพระเจ้า เมื่อผู้บรรยายถามว่าใครอยากรู้จักพระเจ้าให้เดินออกมาจะอธิษฐานเผื่อ ผมก็ลุกออกไป และอธิษฐานต้อนรับพระเยซู

หลังจากนั้นวันต่อๆมาก็เริ่มมีประสพการณ์กับพระเจ้าผ่านการอธิษฐาน ชีวิตก็เริ่มถูกเปลี่ยนไป เริ่มศึกษาพระคัมภีร์และก็รู้ว่าจะอยู่เพื่ออะไร

26 มกราคม 2553

พระเจ้าคงอยากให้เราอ่านหนังสือเล่มนี้มากเลย

วันนี้เลิกจากสัมมนาเย็นมาก ไปที่ร้าน SKS Bookstore ที่ตึก Tan Boon Liat ไม่ทันแน่เลยตัดสินใจหาซื้อหนังสือ How to Read Bible for All it Worth ของ Stuart & Fee แถว Orchard เพราะต้องใช้หนังสือเล่มนี้ประกอบการเรียน และไม่อยากกอปปี้จากคนอื่น แต่ไม่รู้ร้านหนังสือคริสเตียนอยู่ตรงไหน เลยหาร้านหนังสือทั่วไป ไปเจอร้านหนึ่งใกล้ทางลง MRT ชื่อร้าน Borders ที่อาคาร Wheelock มี Section หนังสือศาสนาด้วย หายังไงก็หาไม่เจอ เลยถามพระเจ้าว่าร้านนี้จะมีเหรอ พระองค์ตรัสว่ามีสิ เราก็ตาลาย ตัดสินใจไปถามพนักงาน เพราะจำชื่อหนังสือก็ไม่ได้ จำชื่อผู้แต่งได้แค่คนเดียวคือ Gordon Fee กับจำรูปปกเลยถามว่าหาจากคนแต่งได้ไหม เขาก็หาให้ ขึ้นชื่อหนังสือมาก็ไม่แน่ใจ พนักงานก็เลยพาไปหยิบ โป้ะเช้ะเลย เหลือเล่มเดียวอีกต่างหาก ขอบคุณพระเจ้า

20 ตุลาคม 2552

ดีใจที่เจอคนรู้จักที่งาน itSMF

วันนี่มีเรื่องดีใจสองเรื่องจากการที่ไปร่วมงาน itSMF Thailand

เรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อทางทีมงานที่ Office ส่ง email มาถามว่าจะสามารถร่วมงานนี้ได้หรือไม่ เพราะบริษัททำงานทางให้บริการทางด้าน IT ก็เลยดู link ที่ส่งมาด้วยพบว่ามีพี่คนหนึ่งซึ่งรู้จักมาตั้งแต่ปี 92 อยากจะเจอแต่ไม่มีโอกาส มีชื่ออยู่ใน Panel Discussion ในงานด้วย เลยตั้งใจอย่างยิ่งที่จะไปพบ

เมื่อเจอในงานก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ดีใจมากจนบอกไม่ถูก เหมือนเจอคนคุ้นเคยที่หายไปนาน ทั้งที่เรารู้จักกันในฐานะที่ผมเป็นพนักงานขาย ขายของให้บริษัทที่พี่เขาเป็น IT Manager อยู่เท่านั้น และที่ดีใจมากกว่านั้นคือพี่เขาเป็นคนเห็นผมแล้วทักก่อน ทั้งที่ตอนนี้พี่เขาเป็นหนึ่งในคนสำคัญของวงการ IT บ้านเรา ซึ่งมีคนมาทักทาย และแนะนำตัวกันเต็มไปหมด (ถ้าพี่อ่าน Facebook ผมอยู่ อยากบอกว่าผมไม่ได้เว่อนะ จริงๆ)

เรื่องที่สอง ได้เจอคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ อีกคนหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี 94 ได้ขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่พร้อมกับเพื่อนที่วิศวะจุฬา ได้พบน้องนิสิต มช มาขายเสื้อเพื่อสบทบทุนทำอะไรบางอย่าง เป็นเลื้อสกรีน ม เชียงใหม่ เหลือตัวเดียวและเลอะหมึกด้วย ผมก็ซื้อไว้แล้วขอแลกเปลี่ยนให้น้องช่วยพาไปหาที่กิน ในเชียงใหม่ ก็เลยรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากน้องเรียนจบก็เข้ามาทำงานกรุงเทพเกี่ยวกับเรื่อง GIS กับบริษัท GIS ชื่อดังรายหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก

วันนี้มาเจอน้องวิศวะจุฬาคนหนึ่งซึ่งไม่ได้เจอมาเป็นสิบปีเหมือนกัน ตอนนี้ออกมาทำบริษัทเอง มาร่วมงานด้วย หลังจากนั้นก็แนะนำให้รู้จักน้อง มช ที่พูดไว้ตอนต้นบอกว่าตอนนี้น้องมาทำงานที่บริษัทด้วย ซึ่งผมก็ถามว่าเรารู้จักกันมาก่อนใช่ไหม แล้วก็ย้อนอดีต บลา บลา บลา

น้องเขาบอกว่าโลกมันกลม แต่ผมว่ากรุงเทพมันแคบต่างหาก

กำลังนึกอยู่ว่า นี่เราแก่แล้วใช่ไหมนี่ ถึงมาดีใจแค่เจอคนที่ไม่เจอกันนาน

11 ธันวาคม 2550

แก้ปัญหาไม่สามารถใช้ eth0 ได้เมื่อเปลี่ยน Network Card ใน Ubuntu 7.10

ใน Ubuntu 7.10 (อันที่จริงตั้งแต่ที่เริ่มใช้ udev) Network Card ที่ udev ตรวจสอบได้จะถูกบันทึกไว้ที่ /etc/udev/rules.d/70-persistent-net.rules (ไม่มี /etc/iftab ต่อไป) ถ้าเปลี่ยน Network Card ตัวใหม่จะถูกเพิ่มต่อท้าย ให้เปลี่ยนตัวที่เพิ่มขึ้นมาเป็น eth0 (หรือ Interface อื่น) และลบบรรทัดที่มี MAC address เดิมทิ้ง

20 มิถุนายน 2550

ปัญหาเรื่อง Time Zone ใน PHP และ MySQL

Time Zone Problems, ใน PHP และ MySQL ทำให้เวลาที่ใช้งานคลาดเคลื่อน สำหรับ PHP สามารถแก้ได้ใน Code ด้วย
date_default_timezone_set("Asia/Bangkok"); ซึ่งจะตั้งให้เป็นเวลามาตรฐานประเทศไทย
ถ้าต้องการแก้ค่า default ให้แก้ใน php.ini ที่
[Date]
; Defines the default timezone used by the date functions
date.timezone = Asia/Bangkok


ส่วน MySQL ให้ใช้ SQL Command "SET time_zone = '+7:00'" ตั้งให้เป็นเวลามาตรฐานประเทศไทย
ถ้าต้องการแก้ค่า default ให้แก้ใน /etc/mysql/my.cnf (my.ini สำหรับ Windows) ที่
[mysqld]
default-time-zone=+07:00
หรือตามด้านล่าง (ใช้บน Windows ไม่ได้)
[mysqld]
default-time-zone=Asia/Bangkok